อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากจะแนะนำให้ทุกๆคนได้รู้จักก็คือ เกาะกูดค่ะ
เกาะกูด ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดตราด (ตราดอยู่เลยระยองไปค่ะ ขับรถจากกรุงเทพประมาณ5ชม.) พอถึงตราดแล้วนั่งเรือไปที่พักอีกประมาณ50นาที เท่านี้ก็จะได้พบกับทะเลอีกมุมนึงที่สวยและสงบมากๆ ปกติใครคุ้นกับการเที่ยวทะเลที่พัทยา หัวหิน ภูเก็ต มาที่นี่จะเป็นอีกประสบการณ์นึงค่ะ เพราะเงียบสงบ เป็นส่วนตัว ต่างกับทะเลอื่นๆ
ที่พักบนเกาะกูดนั้นมีให้เลือกหลายแห่ง แต่ส่วนตัวที่เคยไปเที่ยวเกาะกูดมา เลือกพักที่ กัปตันฮุกรีสอร์ท ค่ะ ครั้งแรกไปกับเพื่อนๆเมื่อต้นปี56 ประทับใจหลายๆอย่างของที่นี่ เริ่มตั้งแต่บริการที่น่ารักของพนักงาน และราคาต่อคนที่ all inclusive (จ่ายทีเดียวที่เหลือฟรีหมด) ฉะนั้นเราไปแต่ตัวจริงๆ ที่เหลือทางรีสอร์ทเค้ามีให้หมดแล้ว
หากใครสนใจจะเข้าพักลองดูรายละเอียดกันที่ http://www.captainhookresort.com/ โทรเช็ควันว่าง ราคาต่อหัว (ตอนที่ไปจ่ายไปหัวละ 8xxx net) เมื่อเราตกลงจองห้องพักโอนเงินจองเรียบร้อย ถึงวันก็ออกเดินทางกันเลย หลังจากเดินทางจากกรุงเทพมาแล้ว ให้เดินทางไปที่ ท่าเรือแหลมศอก แผนที่ดังนี้ (ไปไม่ยากเลยค่ะ ขับตรงๆซะส่วนใหญ่ มีป้ายชัดเจน)

รายละเอียดโปรแกรมจากเวป http://www.108holidays.com
เมื่อมาถึงท่าเรือแล้ว จะมาลานจอดรถที่ให้ฝากรถ คืนละ50บาท เมื่อเจอลานจอดแรกอย่าเพิ่งรีบจอดนะคะ ขับไปให้เจอโต๊ะนี้ก่อน จะมีลานจอดใกล้ๆ

มีบริเวณให้นั่งรอ มีชากาแฟบริการ
speedboat ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีค่ะ เราออกจากกรุงเทพกันประมาณตี5.30 มาถึงในตัวเมืองแวะทานข้าวในตลาดกันสบายๆ แล้วมาขึ้นเรือรอบ 11.45 มาถึงก็เที่ยงนิดๆพอดี อาหารเที่ยงพร้อม ทานได้เลย

Lobby

ก๋วยเตี๋ยวทะเล เนื้อๆเต็มๆ
นอกจากก๋วยเตี๋ยวแล้วยังมีlineอาหารบุฟเฟ่อีกค่ะ อาหารเยอะมากๆ ทานกันไม่จำกัด (น้ำดื่ม นอกจากน้ำเปล่า จะมีเป็นน้ำสมุนไพรให้ทุกมื้อ ) ของหวานก็มีไอติม ขนมหวาน แล้วแต่วัน ไปแต่ตัวจริงๆค่ะ ไม่มีเวลาได้หิวเลย ทานกันตลอดเวลา
มาดูห้องพักกันบ้าง ไปกัน8คน ได้ห้องPool Villa 2ห้องนอน 4 เตียง นอนกันสบายๆ มีสระน้ำส่วนตัว ใครชอบไปเที่ยวกันแบบหลายๆคน หรือไปทั้งครอบครัวแนะนำเลย
ห้องนอนอีกฝั่งไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่ก็มี2เตียง มีห้องนั่งเล่น TV กระติกน้ำร้อน ตามพื้นฐานโรงแรมปกติค่ะ น้ำดื่มไปกันหลายคนก็ขอเพิ่มได้ ให้แบบไม่หวง
หลังจากถึงที่โรงแรม ทานข้าว เข้าห้องพักผ่อนกันเสร็จแล้ว ช่วงบ่ายแก่ๆ ก็ออกมาพายเรือคายัคกันค่ะ สนุกสนานกันมาก พายไม่ยากอย่างที่คิด
จะเห็นฝั่งตรงข้ามมีชายหาดอยู่ วิธีไปต้องพายเรือข้ามไปเรือ ว่ายน้ำไปค่ะ ดูเหมือนใกล้ๆ แต่น้ำขึ้นก็ลึกอยู่ ช่วงจังหวะน้ำลงนี่มีน้องหมาไปนั่งแช่น้ำเล่นด้วยดูเพลินมากๆ
สำหรับอีก 1 highlightของที่นี่คือ อาหารค่ะ ในมื้อเย็นวันแรกมาเลย จัดเต็ม อาหารทะเลแบบไม่อั้น แค่เราไปถึงแจ้งชื่อว่า กรุปเราชื่ออะไรมากี่คน เจ้าหน้าที่ก็จะยก set อาหารมาเสิร์ฟทันที

Steak ปลา

แอบไปส่องเตาปิ้ง
ช่วงอาหารเย็นแนะนำให้ลงมาทานไม่เกินทุ่มนึงค่ะ คนจะไม่เยอะมาก ขอเพิ่มขอเติมอะไรจะไวทีเดียว (ที่นี่พนง.เยอะมากๆ แทบจะ1คนต่อโต๊ะ ดูแลเต็มที่)
หลังจากทานอาหารเย็น คืนแรกจะมีโชว์ควงกระบองไฟค่ะ หนุ่มๆที่มาโชว์ก็เป็นพนักงานของทางรีสอร์ทนั่นเอง เก่งรอบด้านจริงๆ

ดูโชว์จบแล้วให้ทิปน้องๆเป็นกำลังใจได้
กิจกรรมวันที่2 หลังจากทานอาหารเช้าและเที่ยงเสร็จ อาหารเช้ามีไข่ดาวไส้กรอก และline บุฟเฟ่อาหารไทย (ไม่ได้ถ่ายภาพมาสำหรับมื้อเช้า) สำหรับมื้อเที่ยง มาชมภาพคร่าวๆกันค่ะ คืออาหารเยอะมาก รสชาติถูกปาก มีให้เลือกหลากหลายมากๆ

กั้งงงง

ขนมปังจิ้มนมข้นที่ไม่ได้กินมานาน ได้มาทานที่นี่

อาหารเยอะมากๆ
ทานอาหารเสร็จแล้วเดินชมมุมอื่นๆของที่นี่ เดินออกไปมีมุมให้นั่งเล่นอีกเยอะมากๆค่ะ ข้างหลังมีโขดหินไว้นั่งดูพระอาทิตย์ตกดินชิวๆได้ด้วย
และอีกกิจกรรมที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้ก็คือการดำน้ำค่ะ เรือจะออกหลังทานข้าวเที่ยงเสร็จ เพราะฉะนั้นถ้าลงมาทานมื้อเที่ยงสามารถเตรียมแต่งกายมาให้พร้อมดำน้ำได้เลย

นั่ง speed boatออกไปประมาณครึ่งชม.

มาฝึกดำกันก่อน ลองใส่หน้ากาก ลองหายใจ ตรงนี้น้ำใสมากๆๆๆ

บริเวณที่ดำจริง แค่อยู่บนเรือก็เห็นปลาแล้วค่ะ น้ำใสมากๆ

จำเบอร์เรือตัวเองให้ดี ระวังขึ้นผิดลำ
สำหรับของทางกัปตันฮุคจะมีเจ้าหน้าที่นำพาไปค่ะ (หรืออยากไปเองก็ได้) ใช้เวลาประมาณเกือบๆครึ่งชั่วโมง หรือถ้าใครไม่อยากไปดำนานๆ จะดำเล่นๆอยู่รอบๆเรือก็ได้ จนท.จะสอนวิธีการขึ้นลงเรือ ตรงนี้อย่าลืมฟังให้ดีนะคะ ระวังจะลื่นเวลาเหยียบบันไดเรือ)
หลังจากดำน้ำกลับมา ทั้งเรือหลับกันเหมือนโดนมอมยาค่ะ ฮ่าๆ เพลียกันมาก แต่พอกลับมาถึงที่รีสอร์ท มีไก่ทอดส้มตำเป็นอาหารว่างรอบริการอีก สุดยอดจริงๆ
สำหรับอาหารเย็นในวันที่2 เป็นคล้ายๆหมูกะทะค่ะ แต่มีทั้งหมูทั้งอาหารทะเล อาหารอย่างอื่นก็มี ห่อหมก หอยเชลนึ่ง ทั้งหมดเติมได้ไม่อั้นเช่นเคยค่ะ

วันนี้เป็นปูม้า
กิจกรรมหลังทานข้าวเย็นวันที่2 มีพาไปนั่งเรือชมหิ่งห้อย ถ้าใครไปช่วงคืนที่ไม่มีพระจันทร์ก็อาจจะเห็นชัดหน่อยค่ะ นั่งเรือไปแป๊บเดียวเท่านั้น
ตื่นมาอีกวันก็เตรียมตัวกลับหลังทานอาหารค่ะ ถ้าได้กลับรอบเช้าเรือออก 9.00 หรือรอบบ่ายก็หลังทานมื้อเที่ยง พนง.ก็บริการช่วยขนกระเป๋าดูแลกันเต็มที่ โบกมือลายันเรือลับตา

อีกมุมนึงของรีสอร์ท

ถึงฝั่งโดยสวัสดิภาพ มีน้องๆช่วยขนกระเป๋ามาแทบจะเกยรถ
สรุปว่าเป็น 3 วัน 2 คืน ที่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และอิ่มอร่อยมากๆ ต้องเอ่ยปากชมเรื่องบริการเลยว่าที่นี่เค้าเทรนพนักงานมาดีจริงๆค่ะ ยิ้มแย้มแจ่มใสเต็มใจบริการทุกคน ถ้ามีโอกาสเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำให้ไปกันนะคะ